วิธีเรียนภาษาอังกฤษภายใน3เดือน

จะเป็นไปได้ไหม? ที่คุณจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายในเวลาแค่สามเดือน?
จะดีไหม? ถ้าคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้แม้คุณจะอยุ๋ในบ้านเกิดก็ตาม?


จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าฉันบอกคุณว่ามันเป็นไปได้! และนอกจากนั้นยังมีผู้คนอีกมากมายที่ดูเหมือนจะทำไม่ได้แต่ก็ทำได้ มีคนที่พูดภาษาอังกฤษภายใน 3 เดือนอยู่จริงๆ



นี่คือเคล็ดลับของคนที่สามารถเรียนภาษาอังกฤษภายใน 3 เดือน ทั้งรวดเร็วและไม่แพงอย่างที่คิด
แน่นอนว่ามันเป็นไปได้

สิทธิ์ คือชายคนหนึ่งทีโตจากจังหวัดขอนแก่นในประเทศไทย เขาเรียนภาษาอังกฤษในวิทยาลัยนานาชาติที่กรุงเทพ แต่เมื่อเขาจบการศึกษา เขาก็ยังไม่สามารถที่จะสนทนาภาษาอังกฤษอย่างราบลื่นได้ ทั้งๆที่ผ่านมาเขาก็ได้เรียนรู้ภาษาเกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมากมาย แต่เขาละละเลยในการสนทนา และนี่คือเหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้เขาไม่สามารถนำภาษาอังกฤษมาใช้ในชีวิตประจำวันได้

สิทธิ์รู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะพาตัวเขาเองไปในวัฒนธรรมใหม่รวมถึงการเรียนรู้ภาษาใหม่ สิทธิ์ได้มีโอกาสฝึกงานในรัฐชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจบการศึกษา หลังจาก6เดือนของการใช้ชีวิตในเมืองชิคาโกเขาก็รู้สึกว่าการสื่อสารภาษาอังกฤษของเขาแทบจะไม่ได้ดีไปกว่าเมื่อก่อนเลยนั่นก็เพราะ เพื่อนร่วมงานทั้งหมดของสิทธิ์ที่ไปฝึกงานด้วยกันนั้นล้วนแต่เป็นคนไทย และแน่นอนว่าเพือนคนไทยก็ย่อมพูดแต่ภาษาไทยเพื่อความสะดวกสบายในการสื่อสาร แม้ว่าสิทธิ์จะพยายามขวนขวายในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอยู่หลายวิธีทั้งเข้าเรียนแบบกลุ่ม หรือแม้แต่พยายามจะอ่าน The Lord of the Rings เป็นภาษาอังกฤษก็ตาม แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษของเขาเลย

วันหนึ่ง สิทธิ์ก็เริ่มตระหนักได้ว่าถ้าเขาควรเริ่มเรียนรู้วิธีการพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเลิกที่จะไปเรียนที่สถาบันในชิคาโกและเริ่มนำมันมาพูดในชีวิตประจำวันดู แต่เมื่อลองจริงๆเค้าก็ดันกลัวเวลาที่ต้องไปเริ่มคุยกับชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษา  แม้กระทั่งคำทักทายง่ายๆอย่าง“What’s up” หรือ “How’s thing" ก็ยังเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับเขาในการเริ่มทักชาวต่างชาติก่อน

หลังจากเดือนนั้นเขาก็เริ่มคิดว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเขาเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานในภาษาอังกฤษมาก่อน ดังนั้นสิทธิ์จึงเริ่มคิดที่จะหยุดและเลิกเรียนภาษาอังกฤษซะ และหันมาฝึกใช้แทนการเรียนอย่างจริงจัง เขาเริ่มพูดภาษาอังกฤษในทุกๆครั้งที่มีโอกาส เค้าไม่ได้สนใจไวยากรณ์อีกต่อไป และเลิกอายแม้สำเนียงของเค้าจะดูแปลกประหลาดไปก็ตาม เขาฝึกไปเรื่อยๆเพื่อที่ผลลัพธ์ในการสื่อสารภาษาอังกฤษในตอนท้ายของเขาจะคล่องแคล่วที่สุด

อะไรคือความคล่องแคล่วหรอ?
ก่อนที่เราจะพูดถึงสิ่งอื่นๆ เราขอบอกคำจำกัดความของคำว่า "คล่องแคล่ว" ก่อน ก็เหมือนกับถ้าคุณถามคำถามไปที่คน10คน แน่นอนว่าคุณก็จะได้รับคำตอบที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงควรมาทำความเข้าใจให้ตรงกันเสียก่อน

ความหมายของคำว่าคล่องแคล่วของสิทธิ์
ก็หมายถึง เขาสามารถพูดได้ตามที่เขาคิดอย่างไม่ติดขัด และมีความผิดพลาดน้อยที่สุด แต่ผู็อื่นก็ต้องเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อสาร เวลาที่เขาสนทนากับชาวต่างชาติอย่างน้อยก็ควรจะมีความคล่องแคล่วสักประมาณ 90-95% ก็จะเยี่ยมเลย

สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับความหมายของคำว่าคล่องแคล่วของสิทธิ์นั้น สิทธิ์กล่าวว่า คล่องแคล่วมันก็ไม่ได้หมายถึงต้องสมบูรณ์แบบ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีสำเนียงที่เหมือนกับเจ้าของภาษา คล่องแคล่วก็เพียงแค่คุณสามารถสื่อสารให้อีกฝ่ายที่กำลังพูดอยู่กับคุณเข้าใจได้ก็เพียงพอ
ภาษาไม่ได้เป็นแบบทดสอบ ดังนั้นไม่มีผิด ไม่มีถูก ไม่ได้เป็นสีดำหรือสีขาว มันก็เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งวิธีที่มนุษย์ใช้สื่อสารระหว่างกัน

สิทธิ์เชื่อตามนั้นและเขาแสดงให้เห็นว่าเขาจะสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วก็ต่อเมื่อเขาพยายามใช้ภาษากับเจ้าของภาษาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะนี่คือวิธีเดียวที่จะทำให้คุณเห็นพัฒนาการทางภาษาของคุณ

เมื่อสิทธิ์ไปยังประเทศใหม่สิ่งแรกที่เขาทำก็คือเริ่มใช้ภาษาของประเทศนั้นๆ และเขาก็เป็นผู้เริ่มบทสนทนาก่อนอีกด้วย เขาพยายามใช้หนังสือเพื่อที่จะเรียนรู้วิธีและพื้นฐานในการออกเสียงของภาษานั้นๆ

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เมื่อเรียนรู้ภาษาใหม่ก็คือหยุดพูดภาษาเกิดของคุณให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เมื่อสิทธิ์ได้ตัดสินใจที่จะหยุดพูดภาษาไทย เขาก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากคุณยังคงใช้ภาษาเกิดของตัวเองอยู่ แน่นอนว่าคุณจะพัฒนาภาษาที่สองหรือภาษาที่สามของคุณได้ช้าอย่างแน่นอน

ความคิดอีกแง่นึงของสิทธิ์ก็คือ การสร้างกิจกรรมที่ทำให้คุณต้องออกไปใช้ภาษาอย่างเจาะจง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้คุณสามารถเรียนรู้คำศัพท์ที่เฉพาะทางหรือเฉพาะในเหตุการณ์นั้นๆ เช่น การออกไปตัดผม ออกไปซื้อและเปิดใช้งานซิมโทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งการเรียนทำคุ้กกี้เพื่อไปพิชิตใจสาวก็ตาม!
คุณก็สามารถพูดเหมือนเจ้าของภาษาได้แม้จะไม่ได้ไปต่างประเทศ? แน่นอนว่าคุณก็ทำได้
คุณไม่จำเป็นต้องออกจากประเทศของคุณและไปประเทศอื่นๆ เพื่อพยายามฝึกฝนสำเนียงให้เหมือนเจ้าของภาษาหรอก! ความจริงสิ่งที่เราเน้นก็คือการพยายามทำให้ภาษาอังกฤษกลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตของคุณดังนั้นคุณจึควรพยายามหาวิธีการที่จะทำให้ชีวิตของคุณได้พบเจอภาษาอังกฤษให้มากที่สุด ทั้งการฟังดนตรี การดูรายการโทรทัศน์และการใช้ภาษาในการสนทนา

สิทธิ์ได้เริ่มเขียนบทความและเคล็ดลับต่างๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถฝึกภาษาอังกฤษได้แม้จะอยู่ที่บ้านของตัวเองก็ตาม เช่นเดียวกันกับ TOPICA NATIVE สถาบันเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ทำให้คุณสามารถสื่อสารกับเจ้าของภาษาตัวจริงจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร เพื่อที่จะช่วยให้คุณได้เข้าใจและสามารถพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนเจ้าของภาษา TOPICA NATIVEคือศูนย์รวมตัวของผู้ที่อยากเรียนภาษาอังกฤษ เพียงแค่1ชั่วโมงต่อวันกับเจ้าของภาษาตัวจริงภายใน3เดือน
ตอนนี้มาสมัครเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กันเถอะ
นี่คือสิ่งที่ทุกคนรอคอย ด้วยหลักสูตรการเรียนจาก TOPICA NATIVE
- เรียนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเป็นระบบ
- มีเป้าหมายในการเรียนเพื่อให้บรรลุตามที่คาดหวังในการเรียน
- มีที่ปรึกษาที่จะช่วยฝึกฝนและทำให้ทุกเป้าหมายของคุณสำเร็จ
- จัดตารางเรียนได้ด้วยตัวเอง ตามวันเวลาที่คุณว่างและสะดวก
- นี่คือ TOPICA NATIVE ที่จะสามารถช่วยให้คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วแม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม

งสัยอะไรเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ คอมเม้นท์ถามมาที่ด้านล่างนี้ได้เลยจ้า ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษ เราแนะนำ คอร์สสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ แบบบุฟเฟต์ ที่ไม่เหมือนใคร จาก Topica Native!!!

 Why us?

► เรียนออนไลน์ ฝึกภาษาอังกฤษได้ทุกที่ทุกเวลา กับเจ้าของภาษา โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
► สามารถเลือกเวลาเรียนตาม วันและเวลาที่สะดวก ได้สูงสุดถึง 16 ชม./วัน
► มีที่ปรึกษาส่วนตัวที่คอยช่วยเหลือ และวางแผนการเรียนส่วนตัวที่เหมาะสม

 Who are we?

► TOPICA Native คือ สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่มีคุณภาพสูง ด้วยราคาที่เหมาะสม ซึ่งมุ่งเน้นฝึกทักษะการพูดสำหรับวัยทำงาน
► หากสงสัยว่า โปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์รูปแบบใหม่กับ TOPICA Native นั้นเหมาะกับคุณหรือไม่?

ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: english-online.topicanative.co.th

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.