ลาออกจากงานเพื่อเรียนภาษาอังกฤษ
คิดอยู่นาน กว่าจะตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อเรียนภาษาอังกฤษและโฟกัสการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเอง พอ 1 เดือนผ่านไปเท่านั้นแหละ เสียใจมากกับการตัดสินตอนนั้น แต่นะ… ในเรื่องโชคร้ายมันก็มักจะมีเรื่องโชคดีอยู่... หลังจากฝึกภาษาอยู่หนึ่งเดือนเต็มก็ว่าเสียเวลานะตอนแรก เลยหันกลับไปทำงานที่บริษัทใหม่
หนึ่งปีผ่านไป เราพยายามแสดงความสามารถของตัวเองในบริษัทอย่างเต็มที่เสมอ ในที่สุดเราก็ได้เลื่อนตำแหน่ง ไม่พอเจ้านายย้ายให้เราไปทำงานในฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ต้องมีหน้าที่ต่อรองและทำธุรกรรมกับคู่ค้าต่างประเทศอยู่เสมอ ที่จริงตอนแรกได้ยินว่าเขาจะให้เราไปทำตรงนั้น เราก็รู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมานานแล้ว แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนก็เพิ่มและสวัสดิการก็เย้ายวนมาก ๆ ก็เลย ‘ลอง’ สักตั้ง ราบรื่น?
ไม่เลยมันมีปัญหามากกว่าที่เราคิดไว้ เราต้องมาโทรคุยกับลูกค้าทางโทรศัพท์แล้วไปหาลูกค้าซึ่งอยู่ที่ต่างประเทศ เรียกได้ว่าพูดอังกฤษกันคล่องเชียวหละ การสื่อสารกับลูกค้าทุกคนเราก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน เราก็ยังรู้สึกผิดหวังในตัวเอง คือเราก็ว่าเราฝึกมาพอสมควร น่าจะได้ดีกว่านี้ เราไม่รู้ต้องทำยังไงแต่เอาเป็นว่ายิ้มไว้ก่อน พยักหน้าและพูดเท่าที่ได้ ทำงานได้สักพักก็ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่ คงต้องเรียนภาษาอังกฤษแล้วล่ะ
แม้ว่าความเชี่ยวชาญของเราในเรื่องงานนั้นดี แต่ภาษายังอ่อนมาก เราถูกนินทาตลอด นอกจากนั้นเพื่อนๆร่วมงานคิดว่า เราได้ตำแหน่งนี้เพราะเรามีความสัมพันธ์พิเศษกับเจ้านายอีก พอเข้าหูทีไร ทุกครั้งที่เราไปทำงานวันต่อมาก็เครียดวนไปค่ะ สมาธิก็ไม่มี พอเจ้านายรู้เรื่องงานเข้า เขาก็ผิดหวังที่ไว้ใจให้เรารับผิดชอบงานนี้ เบื่อก็เบื่อ เซ็งมากกับความตั้งใจกับภาษาอังกฤษ ทำให้เราตัดสินใจลาออกจากงาน (อีกแล้ว)
ด้วยความเชี่ยวในงานของเราเนี่ย มั่นใจอยู่ว่าถ้าภาษาของเราได้ จะหางานอื่นได้สบายๆเลย โชคดีมีเงินเก็บไว้ เรื่องการใช้จ่ายหลังจากลาออกจากงานก็ไม่มีปัญหามากนัก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องทำยังเพื่อสามารถพูดภาษาอังกฤษให้ได้ดีแล้วเร็วที่สุด (ก่อนเงินเก็บจะหมดไง) หลังจากนั้นเราก็วางแผนอย่างละเอียดกับความตั้งใจครั้งนี้ ตั้งเป้าไว้ 6 เดือนเท่านั้น! ในเดือนแรกจากที่ได้ฟังคนที่เค้าเก่งๆแนะนำมา ตอนแรกเราก็โฟกัสแค่การฟังเพื่อให้ชินกับสำเนียงของเจ้าของภาษาผ่าน หนังบ้าง เวลาฟังเราจะพูดตามประโยคง่ายๆ และจดไว้ในสมุดเล็กๆเพื่อจะได้เอามาทบทวนได้ ทุกๆวันเรา ‘หมกมุ่น’ กับคอมพิวเตอร์
แม้ว่าทักษะภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ทักษะการพูดของเราไม่ค่อยดีขึ้นเลย เรียกว่าแย่เลยก็ว่าได้ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ... เราพูดแล้วไม่มีใครฟังเราเลยสงสัยว่าเราออกเสียงแต่ละคำถูกต้องหรือยัง เราพยายามฝึกพูด คิดบทสนทนาด้วยตนเองแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นเพราะเราต้องเปิดสมุดดูถึงจะสามารถพูดได้ เบื่อก็เบื่อ เคยมีความคิดว่าจะล้มเลิกเป้าหมายที่ฝันไว้ แต่เราก็เปิดอินเตอร์เน็ตเข้าดูคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ และพบว่าการที่เราตัดสินใจลาออกเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพราะสถานที่ที่จะทำให้ภาษาอังกฤษของเราพัฒนาได้ดีขึ้นนั้น ก็คือที่ทำงานนั่นเอง ตอนนั้นเราตัดสินใจว่า จะไม่ลาออกจากงาน พยายามเรียนไปด้วยทํางานไปด้วย ทำอย่างไรก็ได้ที่จะช่วยทำให้ภาษาอังกฤษของเรานั่นดีขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว คิดแล้วก็จะเป็นบ้า ทำอย่างไรดีน้าา
เสียเงินไปก็ตั้งเยอะแล้วแต่ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ดีขึ้นเลย คว้างสุดๆ ตอนนั้นเองเราเล่นอินเตอร์เน็ตก็ได้เจอคอร์สเรียน ภาษาอังกฤษที่ Topica Native สอนโดยเจ้าของภาษา สามารถเรียนออนไลน์ได้ ดั้งนั้นถ้ากลางวันเราไปทำงาน ตอนเย็นเราก็สามารถเรียนได้ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนมีคนช่วยดึงเราออกมาจากห่วงวิบากเลย เราเลยตัดสินใจสมัครเรียนภาษาอังกฤษที่นี่และสมัครงานในอีกหลายบริษัท ใน 6 เดือนนี้เราต้องเริ่มต้นกับงานใหม่และเข้าเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ทุกวัน ตามแผนที่วางเราไว้ที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นได้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุด
ในห้องเรียนเราพยายามพูดภาษาอังกฤษให้เยอะที่สุดและถ้ามีข้อสงสัยเราก็จะถามอาจาร์ยเลย เราไม่อายเพราะไม่มีใครรู้จักเรา ยังไงก็เสียเงินไปแล้วก็ต้องใช้เงินทุกบาทและเวลาทุกนาทีให้คุ้มที่สุด ในห้องเรียนอาจาร์ยก็ช่วยเราแก้ไขในเรื่องของการออกเสียงอย่างไรให็ถูกต้อง และมีการสอนไวยากรณ์ที่พบเจอบ่อยในชีวิตประจำวันจนทำให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนที่เราได้เรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็น ทักษะการฟัง-พูด กับเจ้าของภาษาเองมันทำให้เรารู้สึกลบความอายและความคิดที่ว่าพูดแล้วกลัวฝรั่งฟังเราพูดไม่รู้เรื่องออกไปได้เลย เราไม่กลัวที่จะต้องพูดกับฝรั่งอีกต่อไป
ตอนจบคอร์สเรียนภาษาอังกฤษนั้นเราเกิดความมั่นใจในการที่จะต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติมากขึ้น ในขณะนั้นบริษัทเก่าเราได้เปิดรับสมัครคนเพื่อไปทำงานที่สาขาต่างประเทศ เราเลยไม่รอช้า เรารีบสมัครตำแหน่งทันที เพราะประสบการณ์การทำงานที่ผ่านของเรา และทักษะภาษาอังกฤษที่ดีของเราแล้ว จึงทำให้เราไม่รีรอที่จะรีบสมัครตำแหน่งนี้เลย เราคิดว่าทุกคนต้องตกใจว่าทำไมภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นมาก" - คุณรัตนา, ผู้เรียน Topica Native 2016
หนึ่งปีผ่านไป เราพยายามแสดงความสามารถของตัวเองในบริษัทอย่างเต็มที่เสมอ ในที่สุดเราก็ได้เลื่อนตำแหน่ง ไม่พอเจ้านายย้ายให้เราไปทำงานในฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ต้องมีหน้าที่ต่อรองและทำธุรกรรมกับคู่ค้าต่างประเทศอยู่เสมอ ที่จริงตอนแรกได้ยินว่าเขาจะให้เราไปทำตรงนั้น เราก็รู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมานานแล้ว แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนก็เพิ่มและสวัสดิการก็เย้ายวนมาก ๆ ก็เลย ‘ลอง’ สักตั้ง ราบรื่น?
ไม่เลยมันมีปัญหามากกว่าที่เราคิดไว้ เราต้องมาโทรคุยกับลูกค้าทางโทรศัพท์แล้วไปหาลูกค้าซึ่งอยู่ที่ต่างประเทศ เรียกได้ว่าพูดอังกฤษกันคล่องเชียวหละ การสื่อสารกับลูกค้าทุกคนเราก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน เราก็ยังรู้สึกผิดหวังในตัวเอง คือเราก็ว่าเราฝึกมาพอสมควร น่าจะได้ดีกว่านี้ เราไม่รู้ต้องทำยังไงแต่เอาเป็นว่ายิ้มไว้ก่อน พยักหน้าและพูดเท่าที่ได้ ทำงานได้สักพักก็ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่ คงต้องเรียนภาษาอังกฤษแล้วล่ะ
แม้ว่าความเชี่ยวชาญของเราในเรื่องงานนั้นดี แต่ภาษายังอ่อนมาก เราถูกนินทาตลอด นอกจากนั้นเพื่อนๆร่วมงานคิดว่า เราได้ตำแหน่งนี้เพราะเรามีความสัมพันธ์พิเศษกับเจ้านายอีก พอเข้าหูทีไร ทุกครั้งที่เราไปทำงานวันต่อมาก็เครียดวนไปค่ะ สมาธิก็ไม่มี พอเจ้านายรู้เรื่องงานเข้า เขาก็ผิดหวังที่ไว้ใจให้เรารับผิดชอบงานนี้ เบื่อก็เบื่อ เซ็งมากกับความตั้งใจกับภาษาอังกฤษ ทำให้เราตัดสินใจลาออกจากงาน (อีกแล้ว)
ด้วยความเชี่ยวในงานของเราเนี่ย มั่นใจอยู่ว่าถ้าภาษาของเราได้ จะหางานอื่นได้สบายๆเลย โชคดีมีเงินเก็บไว้ เรื่องการใช้จ่ายหลังจากลาออกจากงานก็ไม่มีปัญหามากนัก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องทำยังเพื่อสามารถพูดภาษาอังกฤษให้ได้ดีแล้วเร็วที่สุด (ก่อนเงินเก็บจะหมดไง) หลังจากนั้นเราก็วางแผนอย่างละเอียดกับความตั้งใจครั้งนี้ ตั้งเป้าไว้ 6 เดือนเท่านั้น! ในเดือนแรกจากที่ได้ฟังคนที่เค้าเก่งๆแนะนำมา ตอนแรกเราก็โฟกัสแค่การฟังเพื่อให้ชินกับสำเนียงของเจ้าของภาษาผ่าน หนังบ้าง เวลาฟังเราจะพูดตามประโยคง่ายๆ และจดไว้ในสมุดเล็กๆเพื่อจะได้เอามาทบทวนได้ ทุกๆวันเรา ‘หมกมุ่น’ กับคอมพิวเตอร์
อ่านต่อ : 5 เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษ จากไม่รู้...ให้เก่งทุกด้าน
แม้ว่าทักษะภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ทักษะการพูดของเราไม่ค่อยดีขึ้นเลย เรียกว่าแย่เลยก็ว่าได้ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ... เราพูดแล้วไม่มีใครฟังเราเลยสงสัยว่าเราออกเสียงแต่ละคำถูกต้องหรือยัง เราพยายามฝึกพูด คิดบทสนทนาด้วยตนเองแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นเพราะเราต้องเปิดสมุดดูถึงจะสามารถพูดได้ เบื่อก็เบื่อ เคยมีความคิดว่าจะล้มเลิกเป้าหมายที่ฝันไว้ แต่เราก็เปิดอินเตอร์เน็ตเข้าดูคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ และพบว่าการที่เราตัดสินใจลาออกเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพราะสถานที่ที่จะทำให้ภาษาอังกฤษของเราพัฒนาได้ดีขึ้นนั้น ก็คือที่ทำงานนั่นเอง ตอนนั้นเราตัดสินใจว่า จะไม่ลาออกจากงาน พยายามเรียนไปด้วยทํางานไปด้วย ทำอย่างไรก็ได้ที่จะช่วยทำให้ภาษาอังกฤษของเรานั่นดีขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว คิดแล้วก็จะเป็นบ้า ทำอย่างไรดีน้าา
เสียเงินไปก็ตั้งเยอะแล้วแต่ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ดีขึ้นเลย คว้างสุดๆ ตอนนั้นเองเราเล่นอินเตอร์เน็ตก็ได้เจอคอร์สเรียน ภาษาอังกฤษที่ Topica Native สอนโดยเจ้าของภาษา สามารถเรียนออนไลน์ได้ ดั้งนั้นถ้ากลางวันเราไปทำงาน ตอนเย็นเราก็สามารถเรียนได้ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนมีคนช่วยดึงเราออกมาจากห่วงวิบากเลย เราเลยตัดสินใจสมัครเรียนภาษาอังกฤษที่นี่และสมัครงานในอีกหลายบริษัท ใน 6 เดือนนี้เราต้องเริ่มต้นกับงานใหม่และเข้าเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ทุกวัน ตามแผนที่วางเราไว้ที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นได้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุด
ในห้องเรียนเราพยายามพูดภาษาอังกฤษให้เยอะที่สุดและถ้ามีข้อสงสัยเราก็จะถามอาจาร์ยเลย เราไม่อายเพราะไม่มีใครรู้จักเรา ยังไงก็เสียเงินไปแล้วก็ต้องใช้เงินทุกบาทและเวลาทุกนาทีให้คุ้มที่สุด ในห้องเรียนอาจาร์ยก็ช่วยเราแก้ไขในเรื่องของการออกเสียงอย่างไรให็ถูกต้อง และมีการสอนไวยากรณ์ที่พบเจอบ่อยในชีวิตประจำวันจนทำให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนที่เราได้เรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็น ทักษะการฟัง-พูด กับเจ้าของภาษาเองมันทำให้เรารู้สึกลบความอายและความคิดที่ว่าพูดแล้วกลัวฝรั่งฟังเราพูดไม่รู้เรื่องออกไปได้เลย เราไม่กลัวที่จะต้องพูดกับฝรั่งอีกต่อไป
ตอนจบคอร์สเรียนภาษาอังกฤษนั้นเราเกิดความมั่นใจในการที่จะต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติมากขึ้น ในขณะนั้นบริษัทเก่าเราได้เปิดรับสมัครคนเพื่อไปทำงานที่สาขาต่างประเทศ เราเลยไม่รอช้า เรารีบสมัครตำแหน่งทันที เพราะประสบการณ์การทำงานที่ผ่านของเรา และทักษะภาษาอังกฤษที่ดีของเราแล้ว จึงทำให้เราไม่รีรอที่จะรีบสมัครตำแหน่งนี้เลย เราคิดว่าทุกคนต้องตกใจว่าทำไมภาษาอังกฤษของเราดีขึ้นมาก" - คุณรัตนา, ผู้เรียน Topica Native 2016
Post a Comment